วิธีใช้ซองกันชื้นให้ถูกประเภท

ทำไม “ซองกันชื้น” ถึงสำคัญกับแบรนด์ของคุณ

สำหรับสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยว,คุกกี้,หมากฝรั่ง กาแฟคั่ว เมล็ดธัญพืช ขนมสัตว์เลี้ยง งานชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และสินค้าประเภทกระเป๋าหนังหรือรองเท้า “ความชื้น” และ “ปฏิกิริยาออกซิเดชัน” คือศัตรูเงียบที่ทำให้ เหนียว/ไม่กรอบ เกิดเชื้อรา เหม็นหืน สี/กลิ่น/สัมผัสเปลี่ยน รวมถึงในงานโลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และลดการกัดกร่อน การเลือกใช้ ซองกันชื้น (เพื่อดูดความชื้น) และ ซองดูดออกซิเจน ให้ “เหมาะกับประเภท + เหมาะกับขนาด + บรรจุภัณฑ์ถูกต้อง” ก็จะยืดอายุสินค้า เพิ่มคุณภาพของสินค้า และช่วยลดปัญหาในการคืนสินค้าจากผู้ซื้อได้อย่างชัดเจน

วิธีใช้ซองกันชื้นให้ถูกต้อง

1.วิเคราะห์ปัญหาที่กำลังเผชิญ แล้วเลือกใช้ซอง “ดูดความชื้น” หรือ “ดูดออกซิเจน” ให้ถูกประเภท

  • สินค้าเสียหายจากอะไร?
    • นิ่ม,เหนียว/ไม่กรอบ/ชื้น/มีราขึ้น → ตัวการหลักคือ ความชื้น → แนะนำให้ใช้ ซิลิกาเจล/เคลย์
    • เหม็นหืน/สีคล้ำ/ราขึ้นเกิดการออกซิเดชัน → ตัวการหลักคือ ออกซิเจน → แนะนำให้ใช้ ซองดูดออกซิเจน
  • เส้นทางการจัดเก็บและการจัดส่ง/สภาพแวดล้อมเป็นแบบไหน?
    • อากาศร้อนชื้น/ระยะเวลาจัดส่งนาน/เปิด–ปิดภาชนะบ่อย → เพิ่มความเสี่ยงเรื่องความชื้น
  • ความถี่การเปิดปิดบรรจุภัณฑ์
    • เปิด–ปิดบ่อย (เช่น ขวดคุกกี้) → เน้น “ความชื้น” เป็นหลัก
    • ปิดผนึกนาน (เช่น ส่งอีคอมเมิร์ซ/สต็อกคลัง) → พิจารณา “ซองดูดออกซิเจน” ร่วมด้วย
  • ข้อจำกัดสินค้า
    • กาแฟเม็ดคั่ว/ถั่ว/ธัญพืช/ขนมขบเคี้ยว,คุกกี้ ที่มีส่วนประกอบจากน้ำมัน → เสี่ยงเหม็นหืน → ควรมีซองดูดออกซิเจน
    • อิเล็กทรอนิกส์/อะไหล่,ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ → แนะนำซองดูดความชื้น

หมายเหตุ : หมายเหตุ : สินค้าบางประเภทใช้ “คู่กัน” ได้ เช่น ขนมกรอบไขมันสูง + ซิลิกาเจล (คุมตวามชื้น) + ซองดูดออกซิเจน (ลดกลิ่นหืน) แต่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผนึกดี เพื่อไม่ให้ประสิทธิภาพหายไป

2) คำนวณเพื่อพิจารณาเลือกใช้ขนาดซองกันชื้น/ซองดูดออกซิเจนให้เหมาะสมกับปริมาณสินค้า

  • ซองกันชื้น วัดโดย “คำนวณจำนวน กรัม” ของสินค้า เพื่อเลือกใช้ซองกันชื้นในขนาดที่เหมาะสมกับสินค้า
  • ซองดูดออกซิเจน วัดกันที่ “ความจุ (cc) ในการดูด O₂” โดยประมาณเทียบกับ ปริมาตรอากาศที่หลงเหลือในซองบรรจุ

ตารางแนะนำแบบ (ใช้งานทั่วไป)

ประเภทการใช้งานปริมาตรภาชนะ (โดยประมาณ)แนะนำซองกันชื้น (ซิลิกาเจล/เคลย์) (กรัม)แนะนำซองดูดออกซิเจน (cc)
ถุง/กล่องเล็ก (ขนมซองย่อย)≤ 0.5 ลิตร1–2 กรัม50–100 cc
ถุงกลาง (คุกกี้/ธัญพืช 150–300 กรัม)~1 ลิตร5–10 กรัม100–300 cc
ถุงใหญ่ (500–1000 กรัม)2–3 ลิตร10–20 กรัม300–500 cc
โหลแก้ว/กล่องแข็ง (เปิด–ปิดบ่อย)1–3 ลิตร5–20 กรัม(มักไม่ใช้ O₂ สำหรับเปิด–ปิดถี่)

หมายเหตุ : ตัวเลขข้างต้นเป็นเพียงการคำนวณขั้นต้นเพื่อนำเสนอเป็นตัวอย่าง สำหรับการใช้งานจริงจำเป็นต้องคำนวณสินค้าที่อยู่ภายใน ประเภทสินค้า ค่าความชื้นสินค้า ระยะเวลาทางโลจิสติกส์

3) เลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการใช้ร่วมกับซองกันชื้น/ซองดูดออกซิเจน

ตัวอย่างที่ใช้งานบ่อย

  • ถุงฟอยล์/ถุง Mylar (PET/AL/PE): กันอากาศและความชื้นดีมาก เหมาะกับซองดูดออกซิเจน
  • ขวดแก้ว/โหลแก้ว: ซีลฝาดี ๆ ใช้ได้ทั้งกันชื้นและดูด O₂
  • กระป๋องโลหะ: เหมาะมากกับ O₂ absorber (ซีลดี อายุยาว)
  • พลาสติกทั่วไป (PP/PE บาง): กันอากาศไม่ดีเท่า อาจเหมาะกับงานกันชื้นระยะสั้น หรือซองเสริมภายในกล่องนอกอีกชั้น
  • ถุงกาแฟมีวาล์ว: ใช้กับซองดูดออกซิเจนได้ แต่ต้องคุมก๊าซ CO₂ จากเมล็ดกาแฟด้วย (วาล์วช่วยระบาย)

สิ่งที่ต้องสังเกต

  • ปิดผนึก/ซีลแน่นไหม (ใช้เครื่องซีลความร้อน, ทดสอบรอยรั่ว)
  • ชั้นวัสดุ มีฟอยล์หรือชั้นกันก๊าซเพียงพอไหม
  • ขนาดถุง สัมพันธ์กับ “หัวอากาศ” (Headspace) — น้อยไปอาจบี้สินค้า มากไปต้องเพิ่ม cc ของซองดูด O₂

หมายเหตุ : ถ้ายังเลือกวัสดุถุงไม่ได้ ให้เริ่มจาก “ถุงฟอยล์/ถุง Mylar” เป็น baseline แล้วทดลองเทียบกับถุงพลาสติกหนา/ถุงมีซิป เพื่อดูผลคุณภาพจริง

4) ทดสอบการใช้งานจริง วิเคราะห์–วัดผล และปรับสมดุล

4.1.ออกแบบ A/B Test: เลือกสินค้าเดียวกัน แบ่งเป็น 3–4 กลุ่ม

  • A: ไม่ใช้ซอง (ตัวคุม)
  • B: ใช้ซองกันชื้น 1 ขนาด
  • C: ใช้ซองกันชื้น ขนาดสูงขึ้น
  • D: เพิ่มซองดูดออกซิเจน (ถ้าสินค้าเสี่ยงหืน)

4.2.กำหนดเกณฑ์วัด: ความกรอบ/สัมผัส, กลิ่น/รส, จุดราขึ้น, สี, ความพึงพอใจ
4.3.เงื่อนไขเก็บรักษา: อุณหภูมิห้อง, ห้องชื้น (วางใกล้หน้าต่าง/ห้องครัว), จำลองการขนส่ง
4.4.บันทึกผลทุกสัปดาห์: รูปถ่าย, โน้ตสัมผัส/กลิ่น, วันหมดอายุเชิงคุณภาพ
4.5.สรุปผล

ซองกันชื้นมีกี่ประเภท (เลือกยังไงให้ตรงสินค้า)

1) ซองกันชื้น “ซิลิกาเจล” – ทำจากอะไร/คุณสมบัติ/เหมาะกับอะไร

ซิลิกา เจล ผลิตจาก ซิลิคอนไดออกไซด์บริสุทธิ์ อยู่ในรูปแบบเม็ดกลมใส สามารถดูดซับความชื้นได้ 3 ใน 4 ส่วนต่อน้ำหนัก โดยที่ไม้เปลี่ยนรูปทรง และจับไอน้ำได้ดีแม้ในสภาพอากาศชื้น

คุณสมบัติเด่น :

  • ดูดความชื้นได้ดีในช่วง RH (Relative Humidity) ซึ่งเป็นค่าที่บอกปริมาณไอน้ำในอากาศ ณ อุณหภูมินั้นๆ เหมาะกับอากาศเขตร้อนชื้น
  • มีแบบ Food Grade สำหรับสินค้าอาหาร/อาหารเสริม

หมายเหตุ : หลีกเลี่ยงซิลิกา เจลเม็ดสีน้ำเงิน หากใช้กับผลิตภัณฑ์อาหารและยาอาหารเสริม

เหมาะกับสินค้า :

  • ขนมอบกรอบ/ข้าวเกรียบ/มันฝรั่งทอด (เน้นกรอบ)
  • เสื้อผ้า/กระเป๋าหนัง/รองเท้า (กันชื้น,อับในกล่อง)
  • ชิ้นส่วน/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • ผลิตภัณฑ์สมุนไพรแห้ง/ของแห้งทั่วไป
  • ผลิตภัณฑ์ยา,ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

2) ซองกันชื้น “เคลย์ (Activated Clay/Bentonite)” – ทำจากอะไร/คุณสมบัติ/เหมาะกับอะไร

เคลย์ ผลิตจากธรรมชาติ ไม่มีอันตราย ปราศจากสารพิษและไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน สามารถดูดซับความชื้นภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 – 35 องศาเซลเซียส ดูดซับความชื้นได้สูงถึง 40% เมื่อดูดซับความชื้นจนเต็มที่แล้ว ซองตะไม่บวม พอง และไม่เปลี่ยนรูปใดๆ

คุณสมบัติเด่น :

  • ราคาดี คุ้มค่า เหมาะกับงานปริมาณมาก
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตัวเคลย์สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • ดูดความชื้นได้ดีใน RH ปานกลาง

เหมาะกับสินค้า :

  • ดูดความชื้นได้ใน RH ปานกลาง เมื่อเทียบกับ ซิลิกา เจล
  • ประสิทธิภาพการดูดซับความชื้นจะลดลงเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาหารร้อนสูง

3) “ซองดูดออกซิเจน (Oxygen Absorber)” – ทำจากอะไร/คุณสมบัติ/เหมาะกับอะไร

ซองดูดออกซิเจน หรือ Oxygen Absorber ผลิตจาก ไอรอน ออกไซด์ (Iron Oxies Powder) ทำหน้าที่ดูดซับออกซิเจนที่หลงเหลือในภาชนะบรรจุ ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ไม่มีกลิ่น และสามารถยืดอาหารการเก็บรักษาอาหารได้สูงสุดถึง 4 เท่า

คุณสมบัติเด่น :

  • ลดความการเกิดกลิ่นหืน (ไขมัน/ถั่ว/ธัญพืช)
  • ยับยั้งเชื้อรา/จุลินทรีย์บางชนิด ที่ต้องการ O₂ ในการเจริญเติบโต
  • ยืดอายุสินค้าแห้งที่ไวต่อออกซิเดชันได้ชัดเจน

เหมาะกับสินค้า :

  • กาแฟคั่ว,ชา
  • ถั่ว,ธัญพืช,ขนมทอด,อบ
  • เนื้อสัตว์อบแห้ง,แปรรูป,ผลไม้,สมุนไพร
  • อาหารสัตว์,ขนมสัตว์
  • อาหารสดบางชนิด

ถ้าคุณอยาก เริ่มให้ถูก ตั้งแต่การเลือกประเภท–ขนาด–ถุง–การทดสอบ สำหรับสินค้าของคุณ สามารถพูดคุยกับทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้

โทร.094-820-5260 / Facebook

Scroll to Top